สาวอายุแค่ 22 ป่วยเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์

สาวแชร์ประสบการณ์ป่วยเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์ วันเกิดอายุครบ 22 ปี คือวันเข้าห้องผ่าตัด เตือนคนหนุ่มสาวเปลี่ยน 4 พฤติกรรมด่วน 

ไม ลินห์ นักออกแบบสาวชาวเวียดนาม วัย 22 ปี แชร์ประสบการณ์ของเธอกับการต่อสู้กับมะเร็งต่อมไทรอยด์ “วันเกิดปีที่ 22 คุณทำอะไร? สำหรับฉัน นั่นคือวันที่ฉันเข้าห้องผ่าตัดเพื่อรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์ เป็นการเดินทางครั้งใหม่สำหรับฉัน บนเส้นทางของการรักตนเองและดูแลตัวเอง” 

ก่อนป่วย ไม ลินห์ ถือเป็นเด็กสาวสุขภาพดี รักชีวิต ไม่มีประวัติครอบครัวเจ็บป่วย ดังนั้นเธอจึงไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องเผชิญโรคมะเร็งตั้งแต่อายุยังน้อยขนาดนี้

ไม ลินห์ กล่าวว่า อาการแรกของเธอคือมีก้อนในลำคอ เมื่อไปหาหมอหู คอ จมูก พบว่าเป็นโรคหวัดลงคอ จากการนอนดึกมากเกินไป แค่เปลี่ยนวิถีชีวิตอาการป่วยทั้งหมดก็จะดีขขั้น

แต่หลังจากนั้นไม่นาน ความยากลำบากในการกลืนของเธอก็ไม่ลดลง เธอยังรู้สึกร้อนวูบวาบในตอนกลางคืน บุคลิกของเธอเปลี่ยนไปอย่างผิดปกติ เธอกระสับกระส่ายง่าย แขนขาของเธอสั่น เธอมีอาการใจสั่น และหายใจลำบาก

ไม ลินห์ กลับมาที่โรงพยาบาล โดยคราวนี้เธอได้รับการวินิจฉัยว่ามีปัญหา 2 อย่างพร้อมกัน คือ ค่าเอนไซม์ตับของเธอเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 300 ในขณะที่คนปกติจะต่ำกว่า 40 และเธอมีต่อมไทรอยด์ที่สงสัยว่าเป็นมะเร็งและจำเป็นต้องตัดตรวจชิ้นเนื้อ

3 วันต่อมา เธอได้รับผลการตรวจจากแพทย์ ยืนยันว่าเป็นมะเร็งต่อมไทรอยด์ แม้จะเตรียมจิตใจไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่หญิงสาววัย 22 ปี ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวลเมื่อรู้ว่าเธอเป็นโรคนี้ “วันนั้นฉันไปหาหมอคนเดียว บ่ายแก่ ๆ ฉันก็ได้รับการตรวจ ฉันร้องไห้ไป 30 นาที แล้วฉันก็สงบลงและคิดว่าจะทำอย่างไร ต่อจากนี้ไปชีวิตของฉันจะมีแต่ความสุขเท่านั้น”

หลังจากควบคุมค่าเอนไซม์ตับที่สูงได้แล้ว ไม ลินห์ ก็เข้ารับการผ่าตัดมะเร็งต่อมไทรอยด์โดยแพทย์ หลังการผ่าตัดสุขภาพของเธอค่อนข้างดี แต่เธอจำเป็นต้องอยู่ในโรงพยาบาลเพื่อการติดตามผล เนื่องจากมีค่าเอนไซม์ตับสูง และต้องผ่าตัดต่อมไทรอยด์ออกทั้งหมด 

ไม ลินห์ กล่าวว่า ทันทีที่เธอรู้ว่าเธอเป็นโรคนี้ เธอก็กระตือรือร้นที่จะค้นหารายละเอียดเกี่ยวกับมะเร็งต่อมไทรอยด์ ชนิดพาพิลลารี่ ที่เธอป่วย เมื่อเธอทราบข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับอาการของเธอตลอดจนวิธีการรักษาแล้ว เธอก็ให้กำลังใจตัวเองว่าเธอยังนับว่าโชคดีมากที่ตรวจพบเร็ว

ในเวลาเดียวกัน ไม ลินห์ ยังเตือนให้คนหนุ่มสาวให้ใส่ใจกับสุขภาพของตนเอง และเปลี่ยนพฤตติกรรมการใช้ชีวิตทันที

4 นิสัยที่วัยรุ่นควรเลิกเพื่อป้องกันมะเร็ง

1.อย่าซื้อยาโดยพลการ

ไม ลินห์ กล่าวว่า เมื่อก่อนเธอมักจะมีนิสัยกินยาอย่างไม่ระมัดระวัง ซื้อยาตามอาการโดยไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของปัญหา ตอนนี้เธอตระหนักได้ว่าความผิดพลาดนี้อาจทำให้เธอต้องกินยาโดยไม่จำเป็น การใช้ยาโดยเฉพาะการใช้ยาปฏิชีวนะมากเกินไป

2.เลิกนอนดึก

เพราะการทำงานเป็นนักออกแบบ เธอจึงมักจะมีนิสัยชอบนอนดึก “งานของฉันต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ ดังนั้นฉันจึงชอบทำงานตอนกลางคืนเพื่อให้มีสมาธิ

3.รับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ

ไม ลินห์ แนะนำให้คนหนุ่มสาวทำอาหารที่บ้าน ไม่ควรสั่งอาหารจากข้างนอก เพราะมักจะเป็นอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น ทอด ผัด ย่าง ขณะเดียวกัน 

4.เลิกนิสัยการดื่มน้ำอัดลม

“หลังจากรู้ว่าฉันป่วยมะเร็ง ฉันแทบจะเลิกดื่มน้ำอัดลมเลย ตั้งแต่ฉันป่วย ฉันเรียนรู้ที่จะให้ความสำคัญกับสุขภาพของตัวเองมากขึ้น”