ฮาย Paper Planes ภูมิใจซื้อบ้าน 30 ล้าน แจงลือค่าตัว 100 ล้าน?

โดยวันที่ 10 ก.ย. 66 หนุ่มฮาย ที่มาร่วมถ่ายทำมิวสิคเพลง เพื่อน(ไม่)สนิท ประกอบภาพยนตร์ เรื่อง เพื่อน(ไม่)สนิท ที่ G VILLAGE STUDIO ลาดพร้าว 18 ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกภูมิใจที่ซื้อบ้านจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง พร้อมแจงประเด็นเรื่องค่าตัว 100 ล้าน

เพิ่งซื้อบ้านใหม่? “เป็นบ้านใหม่หลังที่ 2 ครับ ใช้ชีวิตมาประมาณนึง เรารู้ไลฟ์สไตล์ตัวเองแล้ว เราต้องการพื้นที่ประมาณไหน มีห้องทำงาน มีนู่นมีนี่ วันนี้เราวางแผนชีวิตมาก็คิดว่าพร้อมแล้วที่เราจะทำสิ่งนี้ได้ ก็ซื้อบ้านหลังใหม่ใกล้ๆ ที่เดิมครับ เป็นบ้านของผมเอง และมีอีกหลังหนึ่งที่สร้างไว้ให้คุณยาย เพราะว่าคุณยายไม่ยอมย้ายมา คนแก่อ่ะครับทุกคนน่าจะเข้าใจ คนแก่ไม่มีทางที่จะละถิ่นฐาน เราก็ทำได้แค่ไปถางป่าเพิ่มแล้วก็สร้างให้เขาอีกหลังหนึ่ง ให้เขาอยู่ที่ต่างจังหวัดไป”

มูลค่าบ้านประมาณเท่าไหร่? “ประมาณ 30 ล้านบาท ยังไม่รวมตกแต่ง จริงๆ ผมตั้งงบไว้ ก็ปรึกษาพวกพี่ๆ พวกอินทีเรียดีไซน์มันน่าจะบานอยู่แล้ว แต่พอเราตั้งให้มันต่ำ จะได้ควบคุมงบได้ ที่สำคัญพยายามหาสปอนเซอร์ใจดีมาทำงานร่วมกัน ว่าง่ายๆ ก็คือขอสปอนเซอร์นั่นแหละครับ(หัวเราะ) เป็นจุดที่เราเปิดช่องให้ได้ทำงานกับแบรนด์ที่เราไม่เคยได้ทำ ที่สำคัญเราพยายามเลือกแบรนด์ที่เราชอบ ติดต่อเขาไปว่ามีแผนการตลาดแบบนี้มั้ย เราอยากทำงานร่วมด้วยเพราะเราชอบสินค้าของคุณมาก ซึ่งก็มีหลายๆ แบรนด์ตอบรับแล้วก็น่ารักมากๆ ก็ช่วยประหยัดเราไปได้เยอะ อีกอย่างเขาก็ได้ทำงานร่วมกันด้วย”

ความภูมิใจซื้อบ้านจากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง? “ผมภูมิใจกับตัวเองทุกครั้งเลยนะ ไม่ว่าจะบ้านหลังไหน รถ หรือของชิ้นเล็กๆ ผมจะเป็นคนขี้เห่อเสมอ ผมจะคุยกับตัวเองเสมอว่าได้ซื้อสักทีนะ เพราะตอนเด็กๆ เราขาดโอกาสตรงนี้ไปค่อนข้างเยอะ พอโตมาทำงานเหนื่อยๆ เราก็ได้ตอบคำถามตัวเองได้ ได้ใจดีกับตัวเอง ทำให้ตัวเองรู้สึกดีขึ้น แล้วชีวิตเราก็ดีขึ้นด้วย”

มีกระแสข่าวค่าตัว 100 ล้านจริงมั้ย? “โห 100 ล้านไม่จริง จริงๆ 300 ไม่ใช่(ยิ้ม) ยอดวิวดีกว่า ยอดวิวเป็นไปได้ 200 ล้านเนี่ยผมปิดบ้านได้วันเดียวเลยนะ เอาเป็นว่าจะทำให้ถึงแล้วกันครับ ต้องขอบคุณแฟนๆ และผู้ใหญ่ที่ค่ายที่ผลักดันให้เราได้มีโอกาสเข้าไปทำงานในส่วนที่เราไม่ได้ทำ อย่างการเป็นพรีเซ็นเตอร์มันเกิดขึ้นได้ยากมากกับเรา วงร็อคที่ว้ากๆ อยู่ดีๆ วันหนึ่งมาถือขนมเด็ก หรือนมแล็กตาซอย มันเป็นภาพใหม่ๆ ผมเชื่อว่าวงการสินค้าน่าจะคึกคักมากขึ้น เรามีการคอลแลปส์กับศิลปินมากขึ้นแล้วเป็นศิลปินที่ไม่ใช่มาตรฐานเดิม ผมว่ามันเปิดโอกาสให้ศิลปินได้ทำงานมากขึ้นจริงๆ เขาจะได้มีเพลงฮิตแล้วยังไงต่อ มีโอกาสชีวิตมากขึ้น ก็เป็นเรื่องที่ดีครับ”