กระแสไวรัลในโลกออนไลน์กำลังฮือฮากับความลับที่ถูกเปิดเผยโดยบริทนีย์ สเปียร์ ศิลปินสาวคนดังระดับโลกวัย 41 ปี ที่เคยครองวงการเพลงป็อประดับโลก ออกมาปาระเบิดความช็อกเผยว่าจริง ๆ แล้วตอนที่คบกับจัสติน ทิมเบอร์เลค นักร้อง-นักแสดงเคยตั้งครรภ์มาก่อน แต่ฝ่ายชายกลับขอให้ทำแท้ง
บริทนีย์ สเปียร์ และ จัสติน ทิมเบอร์เลก เคยเป็นคู่รักที่มีชื่อเสียงที่สุดในช่วงปี 1999 ถึง 2002 แต่หลังจากที่ทั้งคู่คบหากันอยู่ได้ 3 ปี ท้ายที่สุดทั้งคู่ก็ต้องเลิกรากันพร้อมกับข่าวลือที่เกี่ยวกับรักสามเศร้า แถมชีวิตที่กำลังรุ่งโรจน์ของสาวบริทนีย์กลับพลิกผันในปี 2018
จนกระทั่งถึงปีก่อนหน้านั้น เธอก็ประสบความสำเร็จในการออกจากชีวิตราวกรงขัง 13 ปีภายใต้การดูแลของพ่อของเธอ หลังจากได้อิสรภาพกลับคืนมา เธอกำลังจะเขียนบันทึกความทรงจำเรื่อง “The Woman in Me” ซึ่งมีสปอยล์ออกมาว่า สาวบริทนีย์แบ่งปันประสบการณ์อันเจ็บปวดที่เธอเก็บเป็นความลับมา 20 ปี
โดยเธอเปิดเผยว่า ตอนที่เธอออกเดทกับจัสติน ทิมเบอร์เลก เธอตั้งท้องลูกของเขา แต่สุดท้ายแล้ว ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะทำแท้ง “มันเป็นเรื่องน่าประหลาดใจ แต่สำหรับฉัน มันไม่ใช่โศกนาฏกรรม ฉันรักจัสตินมาก ฉันคาดหวังเสมอว่าสักวันหนึ่งเราจะมีครอบครัวด้วยกัน นี่คงจะเร็วกว่าที่ฉันคาดไว้มาก”
“แต่จัสตินไม่พอใจกับการตั้งครรภ์อย่างแน่นอน เขาบอกว่าเรายังไม่พร้อมที่จะมีลูกในชีวิตของเรา เพราะเรายังเด็กเกินไป หากปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียว ฉันก็คงไม่ทำแบบนั้น แต่จัสตินก็ยังมั่นใจมากว่าเขาไม่อยากเป็นพ่อคน จนถึงทุกวันนี้ นี่เป็นหนึ่งในสิ่งที่ทรมานที่สุดที่ฉันเคยประสบมาในชีวิต” อย่างไรก็ตาม บริทนีย์และจัสติน ซึ่งตอนนั้นอายุเพียง 19 ปี ตัดสินใจทำแท้งหลังจากพูดคุยกัน
หลังจากเลิกกันปีต่อมา สาวบริทนีย์ปล่อยเพลง “Everytime” ตอนแรกหลายคน ๆ คาดเดาว่า เพลงนี้หมายถึงจัสติน ที่มีเนื้อเพลงท่อนฮุคว่า “ทุกครั้งที่ฉันพยายามจะโผบิน ฉันก็จะร่วงหล่นลงมา ไร้ซึ่งปีกแล้ว ฉันรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอเหลือเกิน ฉันคิดว่าฉันต้องการเธอนะ ที่รัก และทุก ๆ ครั้งที่ฉันเห็นเธออยู่ในความฝัน ฉันเห็นใบหน้าของเธอ มันตามหลอกหลอนฉัน ฉันคิดว่าฉันต้องการเธอนะ ที่รัก”
แต่เมื่อสาวบริทนีย์ออกมาสร้างความช็อกโลกกลับจุดประกายให้เกิดการคาดเดามากมายว่า เพลงนี้อาจหมายถึงความเจ็บปวดที่ไม่ได้พบลูกในท้องและทำแท้งครั้งนั้น เพราะในมิวสิกวิดีโอของเพลงนี้มีฉากคลอดลูกในโรงพยาบาล
